สัมผัสความงามของญี่ปุ่น ณ จุดชมซากุระชื่อดัง 2 วัน

โซนรับประทานอาหารแบ่งออกเป็นร้านประจำ 5 ร้าน และ 8-10 ร้านจะสลับเปลี่ยนทุกวันจากทั้งหมด 34 ร้าน นอกจากนี้ยังมีเมนูดั้งเดิมที่หารับประทานได้ที่นี่เท่านั้น นอกจากนี้ ในมุมของที่ระลึกยังมีเกี๊ยวซ่าแช่แข็งจากร้านค้า 35 ร้าน รวมถึงขนมรสเกี๊ยวซ่าและสินค้าเกี่ยวกับเกี๊ยวซ่าอีกด้วย

ทิวทัศน์ซากุระทอดยาว 1,560 เมตรประกอบด้วยต้นซากุระโซเมโยชิโนะ เพลิดเพลินกับดอกซากุระที่บานสะพรั่งในฤดูใบไม้ผลิ รวมไปถึงกับทิวทัศน์ที่หลากหลายและจุดชมวิวที่ยอดเยี่ยมที่คุณสามารถมองเห็นภูเขานิกโกและภูเขานาสุได้ในระยะไกล

ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเมืองซากุระ เช่น ข้อมูลจุดท่องเที่ยวและกิจกรรมแนะนำต่างๆ

อุโจ โนกุจิ เมืองซากุระ อาคารสไตล์ย้อนยุคที่หลงเหลืออยู่ในย่านช้อปปิ้ง และทิวทัศน์ของซะโตยามะ นอกจากร้านอาหารและตลาดเกษตรกรแล้ว ยังมีบ่อน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงด้านการทำให้ผิวพรรณสวยงามอีกด้วย

แม่น้ำคิสึเระกะวะที่เมืองเก่าอย่างเมืองโจวคะ มีประวัติย้อนหลังว่ารุ่งเรืองในฐานะเป็นที่พัก ในสมัยศตวรรษที่ 17 คิสึเระกะวะออนเซนที่ตั้งอยู่ริ่มแม่น้ำแห่งนั้น ออนเซนที่มีความเป็นด่างอ่อน ๆ ซึ่งประกอบไปด้วยองค์ประกอบหลัก 3 อย่างคือกำมะถัน กรดเกลือ และธาตุเหล็กที่หาไม่ได้ง่ายนักในญี่ปุ่น ออนเซนที่มีความเค็มและสีน้ำตาลอ่อน ๆ แห่งนี้ได้รับความนิยมสูงเนื่องจากเป็นออนเซนที่สามารถไปเช้าเย็นกลับได้ ห่างจากตัวเมืองเพียง 30 นาที และเป็นจุดพักรถแห่งแรกของญี่ปุ่น “ที่มีออนเซน”

โอฮิระซังเป็นภูเขาขนาดเล็กที่มีระดับความสูงที่ 341 เมตร เทศกาลชมดอกไม้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะมีการจัดพิธีชงชา ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใสสามารถมองเห็นโตเกียวสกายทรีและตึกสูงๆที่ชินจูกุได้จากยอดเขา เมื่อหมอกปกคลุมที่ราบลุ่ม ภูเขาโดยรอบก็สูงตระหง่านเหมือนเกาะ ทำให้ได้ชื่อว่า “ดินแดนมัตสึชิมะ” บนภูเขายังมีอนุสาวรีย์หินของนวนิยายเรื่อง “โระโบโนะอิชิ”ของ ยูโซะ ยามาโมโตะ

ร้านก่อตั้งขึ้นในช่วงแรกของสมัยเอโดะเท็นเมย์ และมีการผลิตมิโสะที่มีรสชาติเข้มข้นล้ำลึกมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายสมัยเอโดะเป็นต้นมา
เพลิดเพลินไปกับเด็งกาคุอาหารดั้งเดิมที่ทำจากมิโซะชนิดพิเศษ และยังสามารถซื้อมิโซะซึ่งเป็นเครื่องปรุงรสดั้งเดิมของญี่ปุ่นได้อีกด้วย

เพลิดเพลินกับ “อาหารโทจิงิเอโดะ” เช่น อาหารที่จำลองมาจากวรรณกรรมในสมัยเอโดะ อาหารท้องถิ่น และอาหารที่รังสรรค์โดยใช้วัตถุดิบเหมือนในยุคสมัยเอโดะ ทำให้ได้ลิ้มลองรสชาติที่สร้างความประทับใจไม่รู้ลืม